กองพลน้อยที่ 3 ของยูเครน เปิดเผยว่า ได้เอาชนะและทำลายกองร้อยที่ 6 และ กองร้อยที่ 8 ของกองพลน้อยยานยนต์ติดอาวุธที่ 72 แห่งกองทัพรัสเซีย พร้อมทั้งจับกุมทหารฝ่ายตรงข้ามไว้ได้จำนวนมากพอสมควร อีกทั้งยังสร้างความเสียหายอย่างหนักหน่วงให้แก่กองกำลัง “แวกนอร์กรุ๊ป” บริษัททหารรับจ้างรัสเซียที่เป็นแกนนำในการบุกโจมตีเมืองบัคมุตทางภาคตะวันออกของยูเครน
นอกจากนี้ฝ่ายยูเครนยังระบุว่าได้เข้าควบคุมพื้นที่ความกว้าง 3 เมตร ลึก 2.6 เมตร ที่เคยอยู่ภายใต้การครอบครองของกองกำลังรัสเซีย แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดว่าจุดที่ยึดคืนมาได้นี้อยู่บริเวณใดของเมืองบัคมุต แม้ข้อมูลดังกล่าวยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่สอดคล้องกับคำพูดของ นาย เยฟเกนี พริโกชิน ผู้ก่อตั้งแวกเนอร์กรุ๊ป ที่ระบุในวันอังคารว่า กองพลน้อยที่ 72 ของรัสเซียได้ละทิ้งฐานที่มั่นจริง หลังจากสูญเสียกำลังพลประมาณ 500 นาย
ขณะที่ เซอร์ฮี เชเรวัตยี (Serhiy Cherevatyi) โฆษกกองทัพยูเครนประจำภูมิภาคตะวันออกระบุว่า หากแวกเนอร์กรุ๊ปยังไม่มีกำลังพลชุดใหม่เข้ามาเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงยุทธวิธี ทหารรับจ้างกลุ่มนี้อาจไม่สามารถยืนหยัดสู้รบในสมรภูมิบัคมุตได้อีกต่อไป
อย่างไรตาม เชเรวัตยี ระบุว่า สถานการณ์ในบัคมุตยังยากลำบากเนื่องจากศัตรูยังคงพยายามโจมตีอย่างหนักเพื่อยึดเมืองแห่งนี้ให้ได้
ขณะที่ พลเรือเอก รอบ เบาเออร์ (Rob Bauer) ประธานคณะกรรมาธิการกองทัพขององค์กรสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต ระบุว่า แนวโน้มของการทำสงครามในยูเครนขณะนี้การใช้ปริมาณสู้กับคุณภาพ
โดย เบาเออร์ ประเมินว่า ขณะนี้รัสเซียต้องให้ความสำคัญไปที่ปริมาณทั้งการขยายจำนวนทหารเกณฑ์ การระดมกำลังพลที่ไม่ได้รับการฝึกฝนที่ดีพอ และยุทธโปกรณ์ที่แม้จะเก่าแล้ว แต่ยังมีปริมาณอยู่ในจำนวนมาก
ส่วนยูเครนจะเน้นไปที่คุณภาพจากระบบอาวุธและการฝึกอบรมที่ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรชาติตะวันตก ซึ่งจะสร้างความแตกต่างได้เป็นอย่างมากในการสู้รบตลอดไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
กลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ยิงจรวดกว่า 460 ลูกถล่มอิสราเอล
สหรัฐอนุมัติแล้ว โอนทรัพย์สินที่ริบจากรัสเซียให้ยูเครนใช้ฟื้นฟูประเทศ
ขณะที่คณะกรรมการจัดมาตรการชื่อเรียกทางภูมิศาสตร์นอกสาธารณรัฐโปแลนด์ เสนอแนะให้รัฐบาลเปลี่ยนชื่อเรียกเมืองคาลินินกราดและดินแดนโดยรอบ ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้การบริหารของรัสเซีย กลับไปเป็น "โครเลเวียส" (Królewiec) และ "ออบวูด โครเลเวียสกี" (Obwód Królewiecki) ซึ่งเป็นชื่อดั้งเดิม
คณะกรรมการระบุเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่าหนึ่งในสาเหตุที่เสนอเปลี่ยนชื่อ เพราะรัสเซียยกทัพรุกรานยูเครน และชื่อคาลินินกราดไม่มีความเกี่ยวพันกับเมืองหรือภูมิภาคอื่นๆ เลย ทำให้เกิดสะท้อนเชิงลบในโปแลนด์
ด้าน นาย ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย ได้วิจารณ์ข้อเสนอดังกล่าวว่า ไร้เหตุผลและป็นการแสดงความเกลียดชัง โดยตลอดหลายร้อยปีก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ดินแดนดังกล่าวเป็นที่รู้จักในชื่อ โคนิงส์เบิร์ก (Königsberg) เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียตะวันออก ส่วนโครเลเวียสเป็นภาษาโปแลนด์ของชื่อ โคนิงส์เบิร์ก แต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุด เมืองแห่งนี้กับพื้นที่โดยรอบถูกจัดให้อยู่ใต้การปกครองของสหภาพโซเวียต ที่เปลี่ยนชื่อดินแดนแห่งนี้เป็น "คาลินินกราด" ตามชื่อของนาย มิคาอิล คาลินิน หนึ่งในผู้นำคณะปฏิวัติบอลเชวิคคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลาย คาลินินกราดก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนรัสเซีย แต่ไม่มีพรมแดนติดกับแผ่นดินใหญ่ของรัสเซีย ตั้งอยู่ระหว่างโปแลนด์กับลิทัวเนีย แต่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญสำหรับมอสโก เพราะเป็นที่ตั้งของท่าเรือบอลติสก์ (Baltiysk) ฐานทัพของกองเรือบอลติก